นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เตรียมหารือกับผู้บริหาร บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ประจำประเทศไทย วันที่ 4 พ.ย.นี้ ในประเด็นความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจากการประชุมเตรียมความพร้อมของกระทรวงฯ (2 พ.ย.) มีการสรุป 5 ข้อเสนอ ประกอบด้วย
1.ขอให้อาลีบาบาใช้เว็บไซต์ของบริษัทช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าเข้าใช้บริการธุรกิจคุณภาพ อาทิ โรงแรมถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งส่งเสริมธุรกิจที่ได้รับมาตรฐานของประเทศ เช่น รางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย (รางวัลกินรี) ธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐานช้างชูงวงและลายประจำยาม ของกรมการท่องเที่ยว
2.ขอให้อาลีบาบา แสดงความชัดเจนต่อความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อีกครั้ง ในการนำระบบการจ่ายเงินออนไลน์ อาลีเพย์ เข้ามาใช้ในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนในการใช้จ่ายในประเทศ เพราะโดยหลักการแล้วเห็นว่าระบบดังกล่าวจะทำให้ชาวจีนใช้สอยมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งว่าหารือกับธนาคารพาณิชย์ในไทยแล้วราว 6 แห่ง แต่หากต้องการให้ไทยช่วยส่งเสริมก็ต้องมีความชัดเจนในหลักเกณฑ์และข้อกฎหมายจากหน่วยงานหลักอย่าง ธปท.ก่อน
ข้อเสนอที่ 3.ความเป็นไปได้ในการใช้งานของระบบอาลีเพย์ ในการช่วยทำ อี-วีซ่า หรือการทำวีซ่าออนไลน์ให้ชาวจีนได้สะดวกมากขึ้น เพราะสามารถใช้ระบบเป็นแหล่งข้อมูลตรวจสอบเครดิตทางการเงิน (Financial Status) ของผู้ที่ยื่นขอวีซ่าได้นั้น ขอให้บริษัทหารือความชัดเจนกับกระทรวงต่างประเทศว่าทำได้หรือไม่ได้อย่างไร
4.เตรียมเสนอให้อาลีบาบาช่วยส่งเสริมแคมเปญอะเมซิ่งไทยแลนด์ให้รับรู้ในวงกว้างผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด เนื่องจากบริษัทมีกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ที่ใช้ช่องทางออนไลน์วางแผนและจัดการการเดินทางท่องเที่ยวของตัวเอง ซึ่งอาลีบาบามีฐานผู้ใช้งานกว่า 700 ล้านคน เป็นผู้ใช้งานสม่ำเสมอ 400 ล้านคน
สุดท้าย 5.ต้องการให้บริษัทนำโนว์ฮาวในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายบริการท่องเที่ยวมาให้กลุ่มสานพลังประชารัฐ ซึ่งอาลีบาบาเป็นองค์กรใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ หากได้รับความร่วมมือในการนำความรู้มาช่วยยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ จะเป็นประโยชน์ทำให้ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
“การเจรจาความร่วมมือครั้งนี้อยากให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย (win-win) โดยการประชุมครั้งนี้จะต้องได้ความชัดเจนในข้อมูลเชิงธุรกิจของอาลีบาบาที่เตรียมเข้าขยายในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้คลายความกังวลในการตกลงแผนการทำงานร่วมกันในระยะยาว และปกป้องธุรกิจของไทยไม่ให้เสียเปรียบจากการเปิดรับผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาในตลาด”
นับเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวคิด 4.0
แสดงความคิดเห็น