บอลลูน เลิฟ...รักลอยลม...ชมเจียงฮาย
ผ่านพ้นวันแห่งความรัก--“วาเลนไทน์เดย์” ไปไม่นาน ขอถือโอกาสเก็บตกบรรยากาศงาน “SINGHA PARK CHIANG RAI INTERNATIONAL BALLOON FIESTA” มาเล่าสู่กันฟัง เป็นไอเดียสำหรับการไปท่องเที่ยวในช่วงต้นฝน ปลายฝน ต้นหนาว และปลายหนาวในปีนี้และปีหน้ากันสักนิด...
ทริปนี้เป็นทริปรักจัดให้จริงๆ เพราะไปไวมาไวเหลือเกินแค่ 2 วัน 1 คืน...แต่ชื่นมื่นไปหลายปีทีเดียว...
น้อง “โอปอล” พีอาร์สาว บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ชักชวนพี่ๆสื่อมวลชนกว่า 10 คนไปร่วมทริป ออกจากกรุงเทพฯโดยเครื่องบินถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย บึ่งรถไปไม่ไกล ผ่านวัดร่องขุ่น ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ไปนิดเดียว เราก็ไปถึงสิงห์ปาร์ค อาณาจักรแห่งความรัก และความสุขบนดอยสูงของบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง...
คู่รักฉลองแต่งงานเทศกาลบอลลูน
บรรยากาศค่อนข้างคึกคักในวันที่เราไปถึง เหตุเพราะวันนี้จะมีการแข่งขันบอลลูนชิงรางวัลหลายรายการในพื้นที่กว้างขวางกว่า 8,700 ไร่ของสิงห์ปาร์ค รวมถึงจะได้ชมบรรยากาศการปล่อยบอลลูนขึ้นฟ้าอันละลานตาอีกด้วย
แดดร่มลมนิ่ง ความตื่นตาตื่นใจเริ่มขึ้นเมื่อบอลลูนหลากรูปแบบ หลายรูปร่าง ถูกลมเป่าพองให้เห็นสัดส่วนลอยผงาดสู่ท้องฟ้า จากพื้นดินโล่งกว้างขวางกลายเป็นแน่นขนัดด้วยบอลลูนมากกว่า 30 ลูก จาก 15 ประเทศ สนนราคาบอลลูนแต่ละลูกแพงไม่ใช่เล่น ถ้ารูปทรงหยดน้ำธรรมดาราคาราว 3 ล้านบาท ถ้ารูปร่างแปลกประหลาดแหวกแนว ราคาก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นลูกละราว 4 ล้านบาท
บอลลูนแต่ละลูกได้รับการปรุงแต่งพ่นลมร้อนเข้าไปให้ล่องลอยและถูกบังคับทิศทางให้ลอยพาทีมงานบนบอลลูนแข่งหยิบผืนธงปักกลางบึงน้ำกว้าง ทั้งแข่งทิ้งลูกบอลลงจากบอลลูนตกลงในตะกร้ากลางบึงน้ำ ท่ามกลางเสียงเชียร์ลุ้นของผู้คนดังเป็นระยะ บรรยากาศตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะทีมงานบอลลูนที่สามารถคว้ารางวัล ซึ่งรวมเป็นเงินสดก็เกือบครึ่งล้านบาท
บอลลูนแน่นขนัดสิงห์ปาร์ค
ตกค่ำ การแสดงบอลลูนโชว์ แสง สี เสียง ตระการตาก็ทำให้ผู้คนภายในสิงห์ ปาร์คค่ำคืนนั้นซึ่งรวมกันทั้งคนไทย คนฝรั่ง คนจีน และอื่นๆที่น่าจะเฉียดหมื่นชีวิต ต่างเพลิดเพลินกับความงามแปลกตา เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปในสวนสนุกบอลลูนและยังได้สัมผัสประสบการณ์ขึ้นบอลลูนลอยฟ้า
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้สนุกสุดมันส์กับคอนเสิร์ตสุดพิเศษในงาน ที่แต่ละวันทางผู้จัดได้คัดสรรวงดนตรีเอาใจกลุ่มคนอย่างทั่วถึงทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเยาว์ ไม่นับรวมถึงกิจกรรมการละเล่นหลากหลาย
โดยเฉพาะการโหนสลิงซิปไลน์ เหินเวหาสูงเทียบเท่าตึก 8 ชั้น ด้วยระยะทางการโรยตัวไกลกว่า 500 เมตร ทำเอาผู้เล่นทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็กและผู้ใหญ่ส่งเสียงวีดว้ายกันเกือบตลอดค่ำคืน สนุกกันแบบสุดเหวี่ยงจริงๆ
บอลลูนพ่นลมร้อน
สำหรับไฮไลต์สุดพิเศษในเช้าวันแห่งความรัก คือ “การจดทะเบียนสมรสของคู่รักผู้โชคดี 21 คู่” และคู่รักต่างชาติ 1 คู่ ที่เริ่มพิธีการตั้งแต่เช้า ทั้งพิธีตักบาตรร่วมขันตามธรรมเนียมประเพณีไทย ตามด้วยการเข้าตามตรอกออกตามประตู “จดทะเบียนสมรส” และ กิจกรรม “Balloon Love” ที่เปิดโอกาสให้คู่บ่าวสาวหมาดๆได้ขึ้นบอลลูนบอกรักบนฟากฟ้าและพากันลอยละล่องเที่ยวชมทิวทัศน์จังหวัดเชียงรายแบบพาโนราม่า 360 องศา
เชื่อแน่ว่ากิจกรรมนี้ต้องทำให้คู่รักสร้างชาติทั้งหมดต้องประทับใจไม่รู้ลืมไปตลอด...
งานนี้ต้องบอกว่า คนจัดจัดอย่าง “ใจถึง” ทั้งทุ่มทุน ทั้งเปิดโอกาสสร้างความประทับใจให้ผู้คนหลายกลุ่ม ไล่ตั้งแต่ทีมงานแข่งบอลลูนจากหลายประเทศ คู่รักคู่สมรสและเหล่าญาติพี่น้องจากทั่วสารทิศ ตลอดจนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนชมกันมากมาย
แสงสีภายในงานสิงห์ปาร์ค
สำหรับสิงห์ปาร์ค เชียงราย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเชียงราย ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยี่ยมชมวันละเป็น หมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นๆ มีทั้งไร่ชา และที่ให้ถ่ายรูปน่ารักๆ เดิมที่นี่คือ ไร่บุญรอด ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2526 ใช้เป็นพื้นที่เพื่อการเกษตรหลากหลาย ตั้งแต่ไร่ชาอู่หลง ปลูกพุทราซื่อหมี่ มะเฟืองยักษ์หวาน มัลเบอรี่ สตรอเบอรี่ พืชผักสดอีกนานาชนิดและพืชเศรษฐกิจอีกหลายอย่าง รวมถึงยางพาราตามปรัชญาหลักของเจ้าของสถานที่ที่มุ่งเน้นทำเกษตรแบบผสมผสาน มุ่งรักษาสมดุลของธรรมชาติและการอยู่ร่วมกันกับชุมชนอย่างกลมกลืน และสุดท้ายคือ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเชียงราย ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างความสุขให้ผู้มาเยือนมากกว่าคำนึงถึงผลกำไร
หนูน้อยเล่นซิปไลน์โรยตัวลงจากหอสูง
นอกเหนือจากการปลูกพืชนานาพันธุ์ให้ผู้คนเข้าไปชมแล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังจัดกิจกรรมสันทนาการอีกหลากหลาย ตั้งแต่จุดชมชีวิตสัตว์ ประกอบด้วยยีราฟ ม้าลายและวัววาตูซี่ มีเส้นทางขี่จักรยานออกกำลังกายปั่นชมเส้นทางสวยงามภายในไร่ ฯลฯ
ซึ่งหากใครมีโอกาสแวะเวียนไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย นอกจากขึ้นดอยไหว้พระแล้ว หากมีเวลาจะแวะมาหาอารมณ์ชิลๆแบบฟินสุดๆที่นี่ ก็ไม่เสียเวลามากนัก อย่างน้อยเงินไทยก็ไม่ไหลไปไหน กินใช้กันอยู่ในประเทศนี่ละ.....!!
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
แสดงความคิดเห็น