นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า ช่วงหน้าฝน หรือช่วง Green Season เป็นอีกฤดูหนึ่งที่แหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีป่าเขาอันเขียวขจี สายหมอกบนยอดภู และหมู่มวลไม้ดอกนานาพันธุ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัส
รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชุมชนต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิต เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นถิ่น สร้างการรับรู้และประสบการณ์ท่องเที่ยวในมิติใหม่ๆ เป็นไปตามโครงการ "เชียงราย...แต้แต้" ที่ต้องการสนับสนุนให้เป็นเมืองท่องเที่ยวต้นแบบอย่างยั่งยืนใน 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ภายใต้แคมเปญร่มใหญ่ของ ททท. "ท่องเที่ยว วิถีไทย เก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง"
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการแนะนำคือ "ภูชี้ฟ้า" เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นขอบฟ้าแต่เช้าตรู่ โดยมีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าและยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว ถัดมาคือ "ภูชี้ดาว" แหล่งท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เป็นสันเขาแคบๆ ที่สามารถขึ้นไปจุดสูงสุดสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ยอดภูยื่นออกไปกลางขุนเขาที่สูงชันปกคลุมด้วยผืนหญ้าและป่าไม้
ต่อด้วย "ภูชี้เดือน" เป็นเนินเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดนฝั่งไทย ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ตั้งโดดเด่นอยู่ระหว่างภูชี้ฟ้าและผาตั้ง
และด้วยความสูงของภูชี้เดือนที่สูงกว่ายอดภูเขาลูกอื่น ทำให้สามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ภูชี้ดาว ได้พร้อมกันทั้ง 3 ลูก
จากนั้นเปลี่ยนไปชม "โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ" ที่ประกอบไปด้วยไฮไลต์ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ พระตำหนักดอยตุง ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ระหว่างทรงงานที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เน้นความเรียบง่ายและใช้ประโยชน์ได้จริง อันสะท้อนถึงพระราชจริยวัตรของพระองค์
"สวนแม่ฟ้าหลวง" สวนดอกไม้เมืองหนาวหลากสีนับร้อยสายพันธุ์บนเนื้อที่ 30 ไร่ ที่ออกดอกสวยงามตลอดฤดูกาล และ "สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง" ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงสุด เป็นจุดชมวิวที่มองเห็น 3 ประเทศในสามเหลี่ยมทองคำ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์กุหลาบพันปี กล้วยไม้ป่า และต้นไม้จากต่างประเทศ และไม่ควรพลาดไปเยือน "ไร่เชิญตะวัน" สถานที่ปฏิบัติธรรมของท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอันเต็มเปี่ยมไปด้วยสุข เงียบ และสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจคือ "ชุมชนบ้านปางห้า" โฮมสเตย์ท่องเที่ยวชุมชนบ้านปางห้า ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่มีวิถีชีวิตและอาชีพที่ทำกันมาแต่ดั้งเดิม สามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตแบบท้องถิ่น โดยมีกิจกรรมปั่นจักรยานตามเส้นทาง เรียนรู้การทำกระดาษสา ตีมีด เพาะเลี้ยงจิ้งหรีด และทำเทียนไข
ส่วนใครชื่นชอบแนวผจญภัย แนะนำให้ไป "ไร่สิงห์ปาร์ค เชียงราย" ซึ่งเป็นกิจการของเอกชนที่ทำธุรกิจแบบช่วยสังคม หรือซีเอสอาร์ไปด้วย มีชาและกาแฟดังๆ หลายแบรนด์ มีอาหารธรรมชาติซึ่งเป็นออร์แกนิก เป็นอาหารปลอดภัยหรือเกษตรอินทรีย์ มีชนเผ่าชาติพันธุ์หลากหลาย และกิจกรรมปั่นจักรยานท่ามกลางไร่ชาที่สนุกสนานและสวยงามอีกด้วย
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย กล่าวต่อว่า ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวทางวัดวาอารามและงานศิลปะ เมืองเชียงรายก็ไม่น้อยหน้าใคร โดยเฉพาะ "วัดร่องขุ่น" ที่มีความงดงาม โดยศิลปะที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานพุทธศิลป์ ผลงานของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผสมผสานทั้งงานด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรมปูนปั้น และจิตรกรรมไทย ความงดงามของพระอุโบสถสีขาวบริสุทธิ์อลังการด้วยงานปูนปั้นอ่อนช้อย แต่แฝงด้วยหลักธรรมคำสอนมากมาย ดึงดูดให้ผู้คนทั่วโลกเดินทางมาชื่นชมผลงาน
"บ้านดำ" (บ้านศิลปินถวัลย์ ดัชนี) บ้านทรงล้านนา 36 หลัง สีดำ และเป็นสีโปรดของเจ้าของบ้านทั้งหมด ซึ่งไม่เพียงเป็นที่เก็บของสะสมมากมาย แต่ยังเป็นสถานที่ที่ใครมาเชียงรายต้องแวะมาเยี่ยมเยือน ต่อด้วย "วัดน้ำเงิน" (วัดร่องเสือเต้น) ผลงานของนายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ที่สร้างพระอุโบสถสีน้ำเงินตัดทองนั้นดูโดดเด่นและแตกต่าง และแฝงหลักธรรมคำสอนต่างๆ เอาไว้เช่นกัน
จากนั้นไป "วัดห้วยปลากั้ง" วัดร้างที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ โดยเฉพาะพบโชคเจดีย์ 9 ชั้นที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนผสมกับล้านนา และเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอีกลูก ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงรายอีกแห่งหนึ่ง
ปิดท้ายด้วยแหล่งท่องเที่ยวงานศิลป์ คือ "หอนาฬิกาเปลี่ยนสีพุทธศิลป์เชียงราย" หรือหอนาฬิกาเชียงราย สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2548 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มีการบอกเวลาทุกชั่วโมง และในเวลา 19.00, 20.00, 21.00 นาฬิกาของทุกวัน จะมีไฟข้างในเปลี่ยนสีพร้อมกับมีเสียงเพลงเชียงรายรำลึก หรือดนตรีบรรเลง ดังลั่นใจกลางเมืองให้นักท่องเที่ยวและผู้สัญจรผ่านไปมาได้ชมศิลปะอันวิจิตรแห่งนี้ที่สวยที่สุดในประเทศไทย
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย กล่าวต่อว่า ส่วนของแผนการตลาดฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเพื่อสูดอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวเขาและทะเลหมอก และเที่ยวงานเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน และงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่พอสมควร
ททท.จึงมีแผนตลาดในการกระจายนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวไปยังพื้นที่ระดับรอง หรือก็คืออำเภอใกล้เคียงอื่นๆ อาทิ อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน และอำเภอเชียงของ ซึ่งมีความสวยงามและมีกิจกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวชุมชนปางห้าที่แม่สาย การล่องเรือชมแม่น้ำโขง ปั่นจักรยานชมรอบอุทยานประวัติศาสตร์เชียงแสน และชมวิถีชีวิตชุมชนเชียงของ หรือชุมชนไทลื้อเชียงของ ชิมอาหารท้องถิ่น พร้อมชิมอาหารชนเผ่าต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่มาเยือนที่นี่
"ช่วงปลายฝนต้นฤดูหนาวเช่นนี้ ขอเชิญทุกท่านเดินทางมาเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายในจังหวัดเชียงรายได้ รับรองว่าจะสามารถเข้าถึงวิถีเชียงราย...แต้แต้ ได้อย่างแท้จริง" ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย กล่าวปิดท้าย
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย (รับผิดชอบจังหวัดเชียงรายและพะเยา) โทร. 0-5374-4674-5 และ 0-5371-7433 หรือโทร. 1672 เบอร์เดียวทั่วไทย.
แสดงความคิดเห็น