เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “แสงมงคลส่องสว่าง” ที่ต้องการบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก โดยเน้นเชิดชูศิลปวัฒนธรรม และประเพณีไทย ที่มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สะท้อนวิถีชีวิตชุมชนริมสายน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย
พื้นที่การจัดงานปีนี้ก็อยู่ในพื้นที่เดิมเหมือนทุกปีที่ผ่านมาคือท่าน้ำสำคัญริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร, ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค, ท่ามหาราช, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และขยายความพิเศษของปีนี้คือได้ขยายเพิ่มพื้นที่จัดงานมาอีกหนึ่งท่าน้ำหวั่งหลี อดีตท่าคือกลไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างไทยกับจีนที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 180 ปี ซึ่งปัจจุบันได้บูรณะพัฒนาเป็นโครงการอาร์ตแอนด์คัลเจอร์สเปซ “ล้ง1919”
ในงานจะมีกิจกรรม มากมาย เช่น พิธีอาบน้ำเพ็ญ, วิธีส่งเสริมสิริมงคลโบราณ, ลอยประทีปมงคลชีวิต, สวดมนต์เจริญสมาธิ, และมีไฮไลท์พิเศษคือกิจกรรม วันช็อตน็อคเอา (One shot knock out @ Lhong 1919) กิจกรรมที่เป็นที่ชื่นชอบของคนรักการถ่ายภาพ ซึ่งเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมเก็บภาพความประทับใจในงานเทศกาลลอยกระทงของประเทศไทย
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี ในวันที่ 3-5 พฤศจิกายนนี้ และสามารถเดินทางด้วยเรือได้ฟรีใน 8 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเตียน-วัดโพธิ์, ท่ามหาราช ท่าวัดอรุณฯ, ท่าวัดกัลยาฯ, ท่าวัดประยูรฯ, ท่าล้ง1919, ท่าสาธร/สถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน และท่าเอเชียทีคฯ
แสดงความคิดเห็น