เที่ยววังน้ำเขียว ชมวิถีเกษตร สัมผัสลมหนาวโค้งสุดท้าย ใกล้กรุง
วันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับคนที่ยังต้องการไปสัมผัสสายลมหนาวช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ บนเส้นทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครนัก ขอแนะนำสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ที่ถือว่าเป็นแหล่งผลิตโอโซนระดับโลก และมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากมายนางสาวรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า เส้นทางท่องเที่ยวในอำเภอวังน้ำเขียวถือเป็นเส้นทางยอดนิยมที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่ได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตลอดเวลา มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดใหม่ และแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวต่อว่า จุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางวังน้ำเขียวคือ มีทั้งรูปแบบของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งแต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกัน ทำให้นักท่องเที่ยวมีจุดแวะชมได้ตลอดเส้นทาง
“นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาวังน้ำเขียว สามารถดื่มด่ำบรรยากาศความเย็นสบาย ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ เพราะที่นี่ถือเป็นแหล่งผลิตโอโซนระดับโลก และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตเกษตรได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เร่งรีบในธรรมชาติที่สวยงาม” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าว พร้อมกับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเส้นทางวังน้ำเขียว ดังนี้
เริ่มจากสถานที่น้องใหม่ “เดอะลิตเติ้ลการ์เด้น วังน้ำเขียว” เพิ่งเปิดให้บริการช่วงปลายปีที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบวิถีชีวิตแบบธรรมชาติ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นแหล่งเรียนรู้นวัตกรรมทางการเกษตรสมัยใหม่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12 ไร่ มีสวนผัก ผลไม้ ต่างๆ เช่น ข้าวโพด น้ำเต้า มะเขือเทศเชอรี่ ฟักทอง สวนไม้ดอกสีรุ้ง สวนอูฐประดับ สวนผีเสื้อประดับ สวนนกกระจอกเทศประดับ และสวนเห็ดประดับ ซึ่งที่นี่ได้นำผลิตภัณฑ์จากสวนมาแปรรูปเป็นอาหาร และขนมให้เลือกทาน หรือซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้
สำหรับไฮไลต์ คือนวัตกรรมสิ่งปลูกสร้าง เช่นปราสาทข้าวโพดและดอกไม้ โดยเฉพาะข้าวโพดเป็นพืชไร่เศรษฐกิจอันดับ 1 ของอำเภอวังน้ำเขียว แนะนำให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้กับพืชไร่เศรษฐกิจของชาวบ้านที่นี่ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงวิธีปลูกมะเขือเทศเชอรี่ในโรงเรือน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่โดยโซลาร์เซลล์ พลังงานจากธรรมชาติในการให้น้ำและปุ๋ยด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ทางด้านการเกษตร แก่นักเรียนและนักท่องเที่ยวผู้สนใจทั่วไป
สำหรับเดอะลิตเติ้ลการ์เด้น วังน้ำเขียว ตั้งอยู่ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 304 หลักกิโลเมตรที่ 228 อำเภอ วังน้ำเขียว โทร. 08-1966-4152 หรือ Line@ : @TheLittleGarden304
สถานที่ต่อมาคือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาของชาวบ้าน โครงการส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านน้ำซับ ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2541 เกิดจากกลุ่มของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีหรือสารพิษในการทำการเกษตร หันมาทำการเกษตรปลอดสารพิษ รวมตัวเป็นกลุ่มเศรษฐกิจชุมชนที่พึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน ก่อนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 รับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัจจุบันมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอวังน้ำเขียว และอำเภอใกล้เคียงในจังหวัดนครราชสีมา
สวนลุงไกร ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านสุขสมบูรณ์ ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว มีผักปลอดสารพิษหลายประเภทบนพื้นที่กว่า 15 ไร่ เฉพาะผักสลัดมีมากถึง 6 สายพันธุ์ อาทิ สลัดแก้ว สลัดคอร์ส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดลีฟ บัตเตอร์เฮด นอกจากผักสลัด ก็มีมะเขือเทศราชินี มะเขือเทศเนื้อ กะหล่ำปลี ข้าวโพดหวาน ฟักทอง บีทรูท ผักจากสวนลุงไกร สด สะอาด อร่อย นักท่องเที่ยวสามารถซื้อหาติดมือไปลองกิน หรือซื้อมาเป็นของฝากก็ได้ โดยลุงไกรเจ้าของฟาร์มเตรียมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการโชว์ลูกคอและฝีมือการเล่นกีตาร์สไตล์คันทรีสร้างความเพลิดเพลินให้แก่นักท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ของสวนแห่งนี้
ไร่องุ่นวิลเลจฟาร์มแอนด์ไวน์เนอรี่ ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว เป็นสถานที่ปลูกไร่องุ่นและโรงผลิตไวน์สไตล์ฝรั่งเศส แหล่งจำหน่ายไวน์และน้ำองุ่น ชั้นเลิศ ที่มาพร้อมรสชาตินุ่มๆ ละมุนลิ้น จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักและคุ้นหูคุ้นตา พร้อมจุดชมวิวที่สวยงามผ่อนคลายไปกับอาหารแสนอร่อย และช็อปปิ้ง นอกจากนี้ยังให้บริการที่พักโดยได้รับมาตรฐาน ทั้งโรงนาฝรั่งและบ้านพักริมผาแบบฟาร์มสเตย์ พร้อมอาหารแสนอร่อย และไวน์ชั้นดีไว้คอยบริการอีกด้วย
โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว ถือเป็นสถานที่สำหรับผู้คนต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิต มาพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ จิบกาแฟ ทานอาหาร ฟังเสียงนกร้อง สูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างแท้จริงไม่มีปรุงแต่ง และจุดเด่นที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “กาแฟ” เพราะเป็นแหล่งปลูกและคั่วกาแฟด้วยวิถีธรรมชาติ จึงให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟวังน้ำเขียว อีกทั้งยังเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ทุกคนไม่ควรพลาด
ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ 11 (ไทยสามัคคี) ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น และเป็นที่ตั้งของหลักแบ่งเขตจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครราชสีมา ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ได้
วังน้ำเขียวฟาร์ม (ฟาร์มเห็ด) ตั้งอยู่ที่บ้านสุขสมบูรณ์ ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว เป็นฟาร์มเห็ดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ที่ปลูกเห็ดมากมายหลากหลายพันธุ์ ทั้งเห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดหัวลิง และยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากเห็ดมากมาย ทั้งเห็ดสด และผลิตภัณฑ์แปรรูป จากเห็ด เช่นน้ำพริกเห็ด เห็ดดอง น้ำสลัดเห็ด เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีสวนดอกไม้ต่างๆ ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวให้เลือกชม เช่น โครงการฟลอร่าพาร์ค เป็นสวนดอกไม้ที่มีการจัดสวนแบบเอเชียและยุโรปบนพื้นที่กว้างขวาง แบ่งเป็นโซนๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกับดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด อาทิ กุหลาบ พิทูเนีย บีโกเนีย เวอร์บีนา เจอเรเนียม เทียนฝรั่ง ซัลเวีย กาซาเนียฯ จุดที่เป็นไฮไลต์คือบริเวณหอคอย (Tower) ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองลงมาเห็นเขาวงกตดอกไม้ ซึ่งมีสีสันสวยงามที่ประดับไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวนับแสนกระถาง
มอนทาน่าฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวบรรยากาศดีท่ามกลางวิวภูเขา ภายในฟาร์มโดยแบ่งเป็นจุดต่างๆ ดังนี้ ฟาร์มแกะ อัลปาก้าฟาร์ม มุมถ่ายภาพ เกมส์โซน โรงเรือนปลูกผัก ร้านอาหาร กาแฟ และร้านขายของที่ระลึกให้ช็อปปิ้งกับสินค้าหลากหลายชนิด
สวนเบญจมาศวิภา สวนนี้มีดอกเบญจมาศหลายแปลงหลากสีหลายพันธุ์ ที่เด่นๆ ได้แก่ พันธุ์ทรอปิคอล (สีแดง) พันธุ์อะโครโพลิส (สีขาว) และพันธุ์สวีตฮาร์ตเชอร์รี (สีบานเย็น) ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ และต้นไม้น่ารักๆ ในกระถางราคากันเองเป็นของฝากอีกด้วย
“สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในอำเภอวังน้ำเขียว ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการมาพักผ่อนและรับลมหนาวในช่วงโค้งสุดท้ายในฤดูกาล เป็นการเดินทางมาพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย และมีที่พักมากมายหลากหลายรูปแบบให้ทุกๆ คนได้พักผ่อน เติมพลังใจและพลังกายเตรียมพร้อมกลับมาทำงานต่างๆ ที่เข้ามาตลอดปีพ.ศ.2560” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครราชสีมา กล่าวเชิญชวนทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร 0-4421-3030, 0-4421-3666 Facebook Fanpage : TAT Korat หรือ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
แสดงความคิดเห็น