วัดอรุณ ภาพจาก www.bangkok.com |
ยกชั้น"วัดอรุณ"เทียบไทม์สแควร์ ปักหมุดเคานต์ดาวน์บนแผนที่โลก
"ททท." ปั้น "วัดอรุณฯ" แลนด์มาร์กใหม่เคานต์ดาวน์เมืองไทย ปักหมุดปฏิทินเคานต์ดาวน์โลก เทียบนิวยอร์กไทม์สแควร์ ดันท่องเที่ยวท้ายปีคึกคัก เงินสะพัด 1.5 หมื่นล้าน ส่งผลต่อเนื่องปี 59 เปิดอาคารผู้โดยสาร 2 ดอนเมืองรับ 30 ล้านคน/ปีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2558 ต่อเนื่องถึงปี 2559 ททท.ได้เร่งจัดกิจกรรมทางการตลาดส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเปิดภาพการจดจำภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวระดับโลก โดยใช้โอกาสส่งท้ายปี 2558 ต้อนรับปี 2559 ด้วยกิจกรรม "ไทยแลนด์ เคานต์ดาวน์" นับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ที่บริเวณด้านหน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ซึ่งเป็นไอคอนของประเทศไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติจดจำได้ โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29-31 ธันวาคม 2558 บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนมหาราชททท.ตั้งเป้าให้วัดอรุณฯเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ และปักหมุดอยู่ในปฏิทินเคานต์ดาวน์ของโลก เทียบชั้นหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส นิวยอร์กไทม์สแควร์ของสหรัฐอเมริกา และโอเปร่าเฮาส์ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังจัดเคานต์ดาวน์ เข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในวันที่ 30 ธันวาคมด้วย เพื่อแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำของไทยในชาติอาเซียน
"กิจกรรมนี้มีแนวโน้มจัดเป็นกิจกรรมในปีต่อ ๆ ไป เพื่อโปรโมตท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมออกแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวริมน้ำเจ้าพระยารอบ ๆ บริเวณจัดงานรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ"
นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า กิจกรรมไทยแลนด์ เคานต์ดาวน์ 2016 ซึ่งจะมีกิจกรรม 29-31 ธันวาคม 2558 ประกอบด้วยการแสดงแสงสีไลติ้งในชุด "มหากาพย์ นิทานแผ่นดิน" (The Chronicle of Land) เป็นการฉายภาพลงบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ผ่านเทคนิค Projection Mapping ประกอบดนตรีโดยวง "มหานคร ฟิลฮาร์โมนิก ออร์เคสตรา" และนักดนตรีรับเชิญจากกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งอยู่บนเวทีที่สร้างในแม่น้ำเจ้าพระยา เล่าถึงตำนานการสร้างโลกตามปรัมปราคติไทยโบราณ ต่อเนื่องถึงการสร้างชาติพันธุ์ในดินแดนสุวรรณภูมิและการสร้างชาติไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งธรรมราชา การแสดงแบ่งเป็น 9 องก์ รวมความยาวในการแสดง 45 นาที
สำหรับการแสดงแสงสีเลเซอร์จะจัดขึ้นทั้งวันที่ 29, 30 และ 31 ธันวาคม ขณะที่ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ในวันที่ 31 ธันวาคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม 2559 จะมีการแสดง Pyrotechnics และการแสดงพลุเฉลิมฉลอง 3 ชุดใหญ่ จำนวนกว่า 5,500 นัดสุดยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบ Lighting และภาพ Mapping บนพระปรางค์ รวมความยาวการแสดง 9 นาที แล้วจึงเข้าสู่การแสดงมหากาพย์ นิทานแผ่นดิน
นอกจากนี้ททท.ยังได้สนับสนุนกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หลายพื้นที่ ได้แก่ งานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2559 AIS Bangkok Countdown 2016 @CentralWorld กรุงเทพฯ, งาน Chiang Mai Countdown 2016 จังหวัดเชียงใหม่, งาน Pattaya Countdown 2016 จังหวัดชลบุรี, งาน Hatyai City of Fun : Joyful night paradise for all จังหวัดสงขลา, งานส่งตะวันและภูเก็ตเคาท์ดาวน์ จังหวัดภูเก็ต, งานเมืองแห่งความสุข "OK Khon Kaen Happy Land Countdown 2016" จังหวัดขอนแก่น และงานเคาท์ดาวน์ 3 แผ่นดิน 2016 แม่สาย จังหวัดเชียงราย
"คาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2558-4 มกราคม 2559 จะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวในช่วงนี้ประมาณ 15,300 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทาง 2.73 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.7 แสนคน และคาดว่าถึงสิ้นปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยถึง 29 ล้านคนอย่างแน่นอน"
ด้านนายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สนามบินดอนเมืองมีแผนเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสาร 2 ในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ สำหรับเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เพื่อรองรับนักเดินทางท่องเที่ยวในช่วงคริสต์มาสและปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซั่นการเดินทางของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาความแออัดของอาคารผู้โดยสาร 1 ซึ่งปัจจุบันรองรับทั้งนักเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและระหว่างประเทศ
นายเพ็ชรกล่าวว่า มีผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบินดอนเมืองปีนี้ราว 28.5 ล้านคน ขณะที่อาคาร 1 รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 18.5 ล้านคนต่อปี ทำให้สนามบินแห่งนี้มีปัญหาเรื่องความแออัด รวมถึงเกิดความล่าช้าในกระบวนการเช็กอิน และกระบวนการผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบิน การเปิดอาคาร 2 จึงเป็นแผนงานเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการให้ทันก่อนสิ้นปีนี้ โดยอาคาร 2 มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ 11.5 ล้านคน หากรวมกับอาคาร 1 จะทำให้สนามบินดอนเมืองมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคน
"ถึงเวลาที่เราต้องเปิดให้บริการแล้ว เพราะหากรอไปถึงช่วงตรุษจีนน่าจะยิ่งมีปัญหาเรื่องความแออัด ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกบาย" นายเพ็ชรกล่าวและว่า ในช่วงต้นที่เปิดให้บริการนี้อาจยังไม่สมบูรณ์ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำและร้านค้าที่ยังเปิดให้บริการได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น แต่คาดว่าทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าระบบต่าง ๆ ที่เป็นมาตรฐานสากลนั้นเสร็จสมบูรณ์และเป็นไปตามมาตรฐานของสากลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบเช็กอิน ความปลอดภัย ฯลฯ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินที่เป็นไปตามกฎของกรมการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
ที่มา : prachachat.net
แสดงความคิดเห็น