การล่องเรือท่องเที่ยวในลำน้ำโขง จากประเทศไทย มุ่งหน้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กำลังได้รับความนิยม เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเจ้าของเรือ กาสะลองคำสอง เดินเรือเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์ เพื่อสัมผัสบรรยากาศอันสวยงามของริมสองฝั่งแม่น้ำโขง ติดตามได้จากรายงานของ คุณ ธีรธนา ขุนทอง
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด พาล่องเรือแม่น้ำโขง จากท่าเรือในอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ด้วยระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 10 ชั่วโมง จึงถึงจุดหมาย ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเรือ จะได้ชมภาพทิวทัศน์ริมสองฝั่งแม่น้ำโขง สุดประทับใจ
เมื่อทอดสายตาไปมองสองฟากฝั่ง จะเห็นภูเขา แก่งหิน สลับหาดทรายขาว ที่ทอดยาวไปตลอดทาง สลับกับภาพวิถีชีวิตของชาวไทย - ลาว ที่ใช้ชีวิตอยู่กับลำน้ำโขง สายน้ำแห่งมิตรภาพ ยิ่งตอนเรือเล่นผ่านน่านน้ำไทย เข้าสู่เขต สปป.ลาว ก็ยิ่งเห็นวิถีชีวิตของคนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสวยงามของ "ถ้ำติ่ง" ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวหลวงพระบาง ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมน้ำโขง ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ข้างใน อันเป็นที่สักการะของเรือที่แล่นผ่านไปมา
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองหลวงพระบาง ก็มีหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น ตลาดม้ง หรือตลาดมืด ตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและสินค้าหัตถกรรม ที่วางจำหน่ายอยู่ริมถนน และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ อย่างที่วัดเชียงทอง วัดวิชุนราช วัดเชียงทอง ซึ่งล้วนแต่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง และที่พลาดไม่ได้ เป็นไฮไลต์ในการเที่ยวเมืองหลวงพระบางแห่งนี้ คือการตักบาตรข้าวเหนียว ที่มีความคล้ายคลึงกับวิถีไทย
ทั้งหมดล้วนเป็นมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม ได้สัมผัสกับความงามของเมืองวัฒนธรรมแห่งนี้ แต่สิ่งที่เป็นเสน่ห์มากกว่านั้น นั่นคือวิถีของลำน้ำโขง ที่เป็นเสมือนสายสัมพันธ์อันดีระหว่างคนทั้ง 2 ประเทศ
นางสาว ผกายมาศ เวียร์รา ประธานกรรมการ บริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด เจ้าของเรือกาสะลองคำสอง เผยกับทีมข่าวไทยรัฐทีวี ว่าการท่องเที่ยวทางเรือตามลำน้ำโขง กำลังมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทางบริษัทจึงต่อเรือกาสะลองคำสอง ไว้บริการนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวหลวงพระบาง และในอนาคตก็จะต่อเรือเพื่มอีก เนื่องจากการท่องเที่ยวทางลำน้ำกำลังเป็นที่นิยม
ในอนาคตที่จะมีการเปิด AEC ทั้งภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจ จะมีการเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว จะเปิดกว้างให้ทุกคนได้สัมผัสถึงธรรมชาติของแต่ละประเทศ
แสดงความคิดเห็น