27 กันยายนของทุกปีเป็นวันที่องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations World Tourism Organization : UNWTO) ได้กำหนดให้เป็น "วันท่องเที่ยวโลก" อย่างเป็นทางการ
พร้อมทั้งมอบหมายให้ประเทศสมาชิกผลัดกันเป็นเจ้าภาพเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ถึงความสัมพันธ์และคุณค่าของการท่องเที่ยว ทั้งในด้านสังคม วัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกันสำหรับปีนี้ "ประเทศไทย" ได้รับมอบหมายจาก UNWTO ให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน "วันท่องเที่ยวโลก 2559" โดยใช้สถานที่สำคัญ 2 แห่งคือ จังหวัดขอนแก่นและกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-29 กันยายนนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลเข้าถึงอย่างเท่าเทียม" หรือ Tourism for All
"กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดงานวันท่องเที่ยวโลกว่า แม้ว่าที่ผ่านมาไทยจะเจอกับวิกฤตหลายรอบแต่ทางประธานใหญ่ของ UNWTO ยังเชื่อมั่นที่จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน
โดยในวันงาน ดร.ทาลิป ริฟาย เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลก และ ดร.เดวิด สโกว์ชิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสภาพการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก หรือ World Tourism and Travel Council : WTCC มาเดินทางมาร่วมงานพร้อมด้วยสมาชิกและผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจาก 157 ประเทศทั่วโลก
นับเป็นโอกาสดีของภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในการจุดประเด็นให้ทุกคนสามารถรับประโยชน์และความสุขจากการท่องเที่ยวได้อย่างเท่าเทียมกันและยังเป็นโอกาสดีที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอันจะนำไปสู่การประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่ประชาคมโลก
ขณะเดียวกันยังนับเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะได้โชว์ศักยภาพของจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดในภาคอีสานทั้งในด้านความเป็นศูนย์กลางของระเบียงเศรษฐกิจ ประตูสู่อินโดจีน รวมถึงศูนย์กลางบริการด้านเมดิคอล ฯลฯ
เช่นเดียวกับกรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันมีความพร้อมในด้านการให้บริการด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก ล่าสุดกรุงเทพฯ ยังได้รับโหวตจากมาสเตอร์การ์ดให้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยจำนวนราว 16 ล้านคน แซงหน้ากรุงลอนดอน ของอังกฤษ และกรุงปารีส ของฝรั่งเศส ไปเรียบร้อยแล้ว
"กอบกาญจน์" บอกด้วยว่า เหตุผลสำคัญที่ประเทศไทยได้กำหนดคอนเซ็ปต์หรือธีมของงานในปีนี้ว่า "การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลเข้าถึงอย่างเท่าเทียม" หรือ Tourism for All นั้น รัฐบาลมองว่า หากเราจะเติบโตอย่างยั่งยืนเราต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกคนต้องเดินหน้าไปพร้อม ๆ กันได้ทั้งหมด
"Tourism for All" จึงไม่ใช่เพียงแค่การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเท่านั้น แต่เป็นการเปิดตัวว่าเราใส่ใจทุกคนและให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมในทุกสภาพร่างกาย
โดยในงานนี้นอกจากประชาคมโลกจะพบเห็นความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยรวมถึงความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มีความต้องการพิเศษ ความเป็นอารยะสถาปัตย์ ทั้งในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางที่เป็นมิตรกับผู้พิการทุกประเภท ตลอดจนผู้สูงอายุแล้วรัฐบาลยังมีแผนที่จะเปิดเส้นทางการท่องเที่ยว "For All" ในทุกภาคของประเทศอีกด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ บอกว่า ท่านรองนายกรัฐมนตรีธนะศักดิ์ (ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ได้มีแนวคิดอยากให้ประเทศไทยเกิดเส้นทางการท่องเที่ยว For All ในทุกภูมิภาคของประเทศ
พร้อมทั้งจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างเท่าเทียมได้อย่างแท้จริง
แสดงความคิดเห็น