ชาวบ้านริมโขง เครียดน้ำสูงผิดธรรมชาติ สร้างความเสียหายหนัก!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2559 นายประยูร แสนแอ สมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้าน อ.เชียงคาน จ.เลย กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เมตร ทำให้น้ำท่วมพื้นที่หาดสำคัญในเขต อ.เชียงคาน คือหาดไข่ และแก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังได้รับผลกระทบ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้น้ำในแม่น้ำโขงลดลงตามปกติของฤดูแล้ง คือน้ำแห้งจนเห็นก้อนหินและหาดทรายโผล่ขึ้นมา แต่เวลานี้น้ำขึ้นท่วมหาดจนมองเห็นเพียงต้นไคร้น้ำ 4-5 ต้นเท่านั้นโดยช่วงน้ำที่น้ำโขงลดระดับ ทำให้ไก หรือไค (สาหร่ายแม่น้ำโขง) เกิดออกมาตามหาดหิน แต่เมื่อน้ำในแม่น้ำโขงกลับเพิ่มขึ้นและไหลแรง ไกจึงหลุดออกมาติดแห อวนของชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นายประยูร กล่าวต่อไปว่า ตนและเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงทราบข่าวจากโทรทัศน์ที่มีการรายงานข่าวเรื่องเขื่อนจีนระบายน้ำและรู้สึกกังวลแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ทราบจากข่าวว่าจีนจะเปิดน้ำถึงวันที่ 10 เมษายน ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มฤดูกาลหาปลาในแม่น้ำโขง เฉพาะบ้านเหนือ อ.เชียงคาน ก็มีคนหาปลาประมาณ 50 คน ซึ่งกำลังลำบากกับการหาปลาช่วงนี้เพราะน้ำโขงเพิ่มระดับขึ้นอย่างกระทันหัน อยากให้แม่น้ำโขงได้ไหลตามสภาพธรรมชาติแบบเดิมมากกว่า
“พวกเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ยอมรับกันไป แม้น้ำโขงจะเพิ่มขึ้นมากกลางหน้าแล้งแบบนี้ เราก็ยังต้องหาปลาเช่นเดิม ผมได้ยินว่าจะมีเขื่อนสานะคาม ที่สร้างกั้นน้ำโขงเป็นแห่งที่ 4 ใกล้ๆ อ.เชียงคาน เชียงคาน คิดว่าอนาคตน่าจะลำบาก เพราะแม่น้ำโขงมีเขื่อนเต็มไปหมด” นายประยูร กล่าว
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจชุมชนของเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลลุ่มน้ำโขงภาคอีสาน (คสข.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าชาวบ้านที่หาดแห่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ต่างวิตกกังวลกรณีที่น้ำในแม่น้ำโขงขึ้นลงผิดปกติ ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูแล้งหลายปีที่ผ่านมา ผลที่เกิดขึ้นคือหาดทรายหายไป ร่องน้ำเปลี่ยน พื้นที่ริมโขงหายไป พื้นที่ปลูกผักริมโขงลดลง และกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของชุมชน
รายงานภาคสนามของ คสข. ระบุว่ากรณีที่เขื่อนจีนปล่อยน้ำในปริมาณ 2,100 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ทำให้ชาวบ้านกังวลว่าจะทำให้น้ำโขงขึ้นมาสูงถึงหาดทราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของท้องถิ่นได้รับผลกระทบ และทำให้การลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวสูงขึ้น เนื่องจากร้านค้าริมหาดได้รวมกันทำสะพานเชื่อมจากชายฝั่งไปยังร้านค้าบนหาดทราย ซึ่งจากนี้ต้องออกแบบความสูง ความแข็งแรงทนทาน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ในขณะที่ผู้นำท้องถิ่นก็ขาดข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลกระทบจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนครั้งนี้
รายงานของ คสข. ระบุด้วยว่า เจ้าของร้านค้าชายหาดแจ้ง ว่าราว 5 ปีที่แล้วสามารถตั้งร้านที่หาดแห่ได้ ตั้งแต่ก่อนช่วงปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งที่น้ำโขงค่อยๆ ลดระดับลง หาดแห่จะอยู่จนถึงช่วงหลังสงกรานต์ จนเมื่อถึงฤดูฝนก็จะจมไปเมื่อน้ำโขงเพิ่มระดับตามฤดูกาล ชาวบ้านแถบนี้มีรายได้จากการขายอาหารเครื่องดื่ม ในเทศกาลท่องเที่ยวหน้าแล้งราว 5-6 เดือน (ธันวาคม-เมษายน) ประมาณ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาทต่อ 1 ร้านค้า หรือเฉลี่ยเดือนละเกือบแสนบาท แต่ 2-3 ปี ที่ผ่านมา น้ำโขงเปลี่ยนแปลงมากระดับน้ำขึ้นลงไม่ตามฤดูกาล
ที่มา มติชนออนไลน์
แสดงความคิดเห็น